วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สปีชีส์

  สปีชีส์ หรือ สปีซีส์ (Species) หมายถึง กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เราเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก ดังเช่น สปีชีส์ "พัฟฟิน" (Puffin) หมายถึง นกกลุ่มหนึ่งที่พบทั่วไปในแถบแอตแลนติกเหนือ พัฟฟินผสมพันธุ์ในโพรงบนพื้นดิน และมีจะงอยปากหลายสี ตีนสีส้ม และมีท่าเดินน่าขบขัน คำอธิบายเช่นนี้มีประโยชน์ แต่นักวิวัฒนาการแยกสิ่งมีชีวิตออกเป็นสปีชีส์ได้ด้วยวิธีที่ง่ายกว่านี้มาก กล่าวคือสิ่งมีชีวิตสปีชีส์เดียวกัน  อ่านเพิ่มเติม
สปีชีส์

โรคภูมิแพ้(allergy)

 เป็นโรคไม่ติดต่อเพราะไม่ได้เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์หรือไวรัส ไม่สามารถแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ แต่โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่ตอบสนองอย่างรุนแรงต่อสิ่งแปลกปลอมที่อยู่รอบๆ ตัว เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่น อาหาร เป็นต้น สิ่งที่เป็นสาเหตุให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านต่อสิ่งแปลกปลอม เราเรียกสิ่งนั้นว่า สารก่อภูมแพ้(allergen) และเมื่อมีสารภูมิแพ้นี้เข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นทางลมหายใจ ทางเดินอาหาร หรือสัมผัสทางผิวหนัง เซลล์ลิมดฟซ์ที่เผชิญหน้ากับสารเหล่านี้ก็จะสร้างแอนติบอดี อ่านเพิ่มเติม

โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง(Acquired Immune Deficiency Syndome ; AIDS)

โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง(Acquired Immune Deficiency Syndome ; AIDS
    เป็นโรคที่เกิดจากการมีเชื้อไวรัส HIV เข้าสู่ร่างกาย แล้วไปขยายจำนวนอยู่ภายในเซลล์ที จนเซลล์ทีตายไปเป็นจำนวนมาก จากการที่ไวรัส HIV โจมตีระบบภูมิคุ้มกันนี้ทำให้คนเป็นโรคเอดส์ตายลงไปเป็นจำนวนมากเพราะร่างกายสูญเสียความสามารถในการต่อสู้โรค เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเคย ร่างกายจึงอ่อนแอและเกิดโรคแทรกต่างๆ เช่น โรคปวดบวม(นิวมอเนีย) วัณโรค เยื่อหุ้ม อ่านเพิ่มเติม

ด่านที่3 : ระบบภูมิคุ้มกัน

เมื้อเชื้อโรคสามารถผ่านด่านที่สองได้แล้ว จะมีการกระตุ้นหน่วยป้องกันพิเศษ ไม่ว่าสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาจะทำให้เกดอาการเป็นไข้หรือไม่ก็ตาม ก็จะมีการตอบสนองแบบจำเพาะนี้เสมอ ซึ่งเป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันเฉพาะโรคหนึ่งโรคใดที่เคยสัมผัสเท่านั้น เชื้อโรคบางชนิดจะมีโมเลกุลประจำเซลล์เรียกว่า แอนติเจน(antigen) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารพวกโปรตีน เมื่อเข้าสู่ร่างกายคน เซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า ฟาโกไซต์  อ่านเพิ่มเติม

ด่านที่ 2: แนวป้องกันโดยทั่วไป

ด่านที่ 2: แนวป้องกันโดยทั่วไป
    ถึงร่างกายจะมีกำแพงป้องกันที่แข็งแรงหนาแน่นเพียงใด แต่เชื้อโรคก็สามารถที่จะเล็ดลอดเข้าสู่ร่างกายและทำอันตรายต่อเซลล์ภายในได้ ทั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากความรุนแรงของเชื้อโรคเอง หรือสภาวะร่างกายอ่อนแอ ตลอดจนการมีบาดแผลเกิดขึ้นกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะสามารถฝ่าแนวป้องกันด่านแรกเข้าไปภายในร่างกายและทำอันตรายต่อเซลล์ได้ เซลล์ที่ได้รับอันตรายจะได้ขับสารเคมีเพื่อส่งสัญญาณไปกระตุ้นกระบวนการตอบสนองที่ทำให้เกิดอาการอักเสบ(inflammation) ขึ้น และกระบวนการอักเสบนี้เอง ที่จะทำหน้าที่เป็นเสมือนด่านสกัดกั้น อ่านเพิ่มเติม

อยู่อย่างปลอดภัย

ดยปกติแล้วร่างกายของคนเรา มีกลไกในการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนกับกำแพงเมือง ด่าน หรือป้อมปราการที่สร้างไว้สำหรับเป็นเครื่องกีดขว้าง สกัดกั้นหรือดักจับทำลายเชื้อโรค เพื่อไม่ให้เข้าไปทำอันตรายเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญๆ ภายในร่างกายจนเกิดเป็นโรคร้ายแรงได้ ด่านหรืออวัยวะที่ช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อโรคโดยอัตโนมัตินั้นมีอยู่ทั้งหมด 3 ด่านด้วยกันคือ
ด่านที่ 1: ผิวหนัง
  ผิวหนังมีแนวป้องกัน คือ อ่านเพิ่มเติม